สีไทยตามวัน
3 โทนสีไทยไทยตามวัน
การแต่งตัวด้วยสีตามวันเป็นวัฒนธรรมความเชื่อของไทยที่ได้รับอิทธิพลมาจากตำนานฮินดู พราหมณ์ มีกฎเกณฑ์ของตำราโหราศาสตร์ที่ได้กำหนดเทพที่ปกป้องแต่ละวัน ดังนี้
วันอาทิตย์ ตามตำนานว่า พระอิศวรเอาราชสีห์ 6 ตัวมาป่น แล้วห่อด้วยผ้าสีแดง (Red Rose) พรมด้วยน้ำอมฤตบังเกิดเป็นพระอาทิตย์ มีกายสีแดง
วันจันทร์ ตามตำนานว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้นางฟ้า 15 นางกลายเป็นผงละเอียด แล้วห่อด้วยผ้าสีเหลืองอ่อน (Light Yellow) ประพรมด้วยน้ำอมฤต ก็บังเกิดเป็นพระจันทร์ มีกายสีเหลืองนวล
วันอังคาร ตามตำนานเล่าว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้กระบือ 8 ตัวกลายเป็นผงแล้วห่อด้วยผ้าสีแดงหลัว ก็บังเกิดเป็นพระอังคาร มีสีกายเป็นสีแก้วเพทาย (แดงหลัว) บางแห่งก็ว่าเป็นสีชมพู
วันพุธ ตามตำนานว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้พญาคชสาร 17 ตัวกลายเป็นผงห่อด้วยผ้าสีเขียวใบไม้ ประพรมด้วยน้ำอมฤตก็บังเกิดเป็นพระพุธ มีสีกายเป็นสีแก้วมรกต
วันพฤหัสบดี ตามตำนานว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้พระฤๅษี 19 ตนกลายเป็นผง แล้วเอาผ้าสีแสด (Bright Red Orange) ห่อผงนั้น ประพรมด้วยน้ำอมฤต ก็บังเกิดเป็นพระพฤหัสบดี มีสีกายเหมือนสีผ้าที่ห่อ สีแสด
วันศุกร์ ตามตำนานว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้โค 21 ตัวกลายเป็นผง แล้วห่อด้วยผ้าสีน้ำเงินหรือสีคราม (Light Indigo Blue) ประพรมด้วยน้ำอมฤต ก็บังเกิดเป็นพระศุกร์ มีสีกายกล่าวไว้ต่าง ๆ กัน แต่ตามภาพเขียนเป็นสีคราม
วันเสาร์ ตามตำนานว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้โค 21 ตัวกลายเป็นผง แล้วห่อด้วยผ้าสีน้ำเงินหรือสีคราม (Light Indigo Blue) ประพรมด้วยน้ำอมฤต ก็บังเกิดเป็นพระศุกร์ มีสีกายกล่าวไว้ต่าง ๆ กัน แต่ตามภาพเขียนเป็นสีคราม
จากความเชื่อนี้เอง ทำให้ สตรีชาววังแต่งตัว ดังนี้
วันจันทร์ : นุ่งเหลืองอ่อนห่มบานเย็น, นุ่งน้ำเงินนกพิราบต้องห่มจำปาแดง
วันอังคาร: นุ่งสีปูน ห่มโศก หรือ นุ่งโศก/เขียวอ่อน ต้องห่มม่วงอ่อน
วันพุธ : นุ่งสีถั่ว/สีเหล็ก ห่มจำปา
วันพฤ.: นุ่งเขียวใบไม้ห่มแดงเลือดนก หรือ นุ่งแสดห่มเขียวอ่อน
วันศุกร์ : นุ่งน้ำเงินแก่ห่มเหลือง
วันเสาร์ : นุ่งเม็ดมะปรางห่มโศก หรือนุ่งผ้าลายพื้นม่วงห่มโศก
วันอาทิตย์ : นุ่งผ้าลายพื้นสีลิ้นจี่/เลือดหมู แล้วห่มโศก
ซึ่งการแต่งตัวตามวันในปัจจุบันมีการพัฒนาจากความเชื่อสตรีชาววัง แต่แท้จริงแล้วสำหรับคนที่ทำธุรกิจ ลงทุน ติดต่อประสานงาน การแต่งดังกล่าวไม่เหมาะสม เพราะสิ่งที่เราอยากได้จากการแต่งเสื้อสีตามวันจะเป็นโชคการเงิน โชคสนับสนุน ซึ่งถ้ามองจากมุมวัตถุมงคลก็คือ การเน้นภโคทรัพย์ เมตตามหานิยม ไม่ใช้แคล้วคลาดปลอดภัย โดยสาเหตุหลักมาจากลักษณะการเดินทางที่เปลี่ยนไป (ขับรถยนต์)
วันอาทิตย์ ตามตำนานว่า พระอิศวรเอาราชสีห์ 6 ตัวมาป่น แล้วห่อด้วยผ้าสีแดง (Red Rose) พรมด้วยน้ำอมฤตบังเกิดเป็นพระอาทิตย์ มีกายสีแดง
วันจันทร์ ตามตำนานว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้นางฟ้า 15 นางกลายเป็นผงละเอียด แล้วห่อด้วยผ้าสีเหลืองอ่อน (Light Yellow) ประพรมด้วยน้ำอมฤต ก็บังเกิดเป็นพระจันทร์ มีกายสีเหลืองนวล
วันอังคาร ตามตำนานเล่าว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้กระบือ 8 ตัวกลายเป็นผงแล้วห่อด้วยผ้าสีแดงหลัว ก็บังเกิดเป็นพระอังคาร มีสีกายเป็นสีแก้วเพทาย (แดงหลัว) บางแห่งก็ว่าเป็นสีชมพู
วันพุธ ตามตำนานว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้พญาคชสาร 17 ตัวกลายเป็นผงห่อด้วยผ้าสีเขียวใบไม้ ประพรมด้วยน้ำอมฤตก็บังเกิดเป็นพระพุธ มีสีกายเป็นสีแก้วมรกต
วันพฤหัสบดี ตามตำนานว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้พระฤๅษี 19 ตนกลายเป็นผง แล้วเอาผ้าสีแสด (Bright Red Orange) ห่อผงนั้น ประพรมด้วยน้ำอมฤต ก็บังเกิดเป็นพระพฤหัสบดี มีสีกายเหมือนสีผ้าที่ห่อ สีแสด
วันศุกร์ ตามตำนานว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้โค 21 ตัวกลายเป็นผง แล้วห่อด้วยผ้าสีน้ำเงินหรือสีคราม (Light Indigo Blue) ประพรมด้วยน้ำอมฤต ก็บังเกิดเป็นพระศุกร์ มีสีกายกล่าวไว้ต่าง ๆ กัน แต่ตามภาพเขียนเป็นสีคราม
วันเสาร์ ตามตำนานว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้โค 21 ตัวกลายเป็นผง แล้วห่อด้วยผ้าสีน้ำเงินหรือสีคราม (Light Indigo Blue) ประพรมด้วยน้ำอมฤต ก็บังเกิดเป็นพระศุกร์ มีสีกายกล่าวไว้ต่าง ๆ กัน แต่ตามภาพเขียนเป็นสีคราม
จากความเชื่อนี้เอง ทำให้ สตรีชาววังแต่งตัว ดังนี้
วันจันทร์ : นุ่งเหลืองอ่อนห่มบานเย็น, นุ่งน้ำเงินนกพิราบต้องห่มจำปาแดง
วันอังคาร: นุ่งสีปูน ห่มโศก หรือ นุ่งโศก/เขียวอ่อน ต้องห่มม่วงอ่อน
วันพุธ : นุ่งสีถั่ว/สีเหล็ก ห่มจำปา
วันพฤ.: นุ่งเขียวใบไม้ห่มแดงเลือดนก หรือ นุ่งแสดห่มเขียวอ่อน
วันศุกร์ : นุ่งน้ำเงินแก่ห่มเหลือง
วันเสาร์ : นุ่งเม็ดมะปรางห่มโศก หรือนุ่งผ้าลายพื้นม่วงห่มโศก
วันอาทิตย์ : นุ่งผ้าลายพื้นสีลิ้นจี่/เลือดหมู แล้วห่มโศก
ซึ่งการแต่งตัวตามวันในปัจจุบันมีการพัฒนาจากความเชื่อสตรีชาววัง แต่แท้จริงแล้วสำหรับคนที่ทำธุรกิจ ลงทุน ติดต่อประสานงาน การแต่งดังกล่าวไม่เหมาะสม เพราะสิ่งที่เราอยากได้จากการแต่งเสื้อสีตามวันจะเป็นโชคการเงิน โชคสนับสนุน ซึ่งถ้ามองจากมุมวัตถุมงคลก็คือ การเน้นภโคทรัพย์ เมตตามหานิยม ไม่ใช้แคล้วคลาดปลอดภัย โดยสาเหตุหลักมาจากลักษณะการเดินทางที่เปลี่ยนไป (ขับรถยนต์)